DES แจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม 1-7 ก.ย. 66
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ กล่าวถึง ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 1 – 7 กันยายน 2566
พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,284,950 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 177 ข้อความ ทั้งนี้ช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ
- ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 144 ข้อความ
- การแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 33 ข้อความ
รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 109 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 62 เรื่อง
ทั้งนี้ ดีอีเอส ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 4 กลุ่ม คือ
1.นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในกระเทศ จำนวน 45 เรื่อง อาทิ รัฐฯ โอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้เงินย้อนหลังคนละ 1,500 บาท ในเดือน ก.ย. 66 เป็นต้น
2.ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 28 เรื่อง อาทิ วิธีนำ 3 นิ้วมาชนกัน ช่วยป้องกันโรคตับ เป็นต้น
3. ภัยพิบัติ จำนวน 8 เรื่อง อาทิ ฤดูฝน จะเหลือเพียง 45 วัน สำหรับประเทศไทยตอนบน เป็นต้น
4.เศรษฐกิจ จำนวน 28 เรื่อง อาทิ PTT ร่วมกับ GULF เปิดโอกาสให้ลงทุนหุ้นอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า เริ่มต้น 1,250 บาท 25 หุ้น ผลกำไร 10 – 15% เป็นต้น โดยทั้งนี้ เป็นเรื่องการหลอกลวงธุรกรรมทางการเงิน จำนวน 27 เรื่อง
ข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้น ๆ ในสัปดาห์ล่าสุดนี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวด้านกลุ่มนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ รองลงมาเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และกลุ่มเศรษฐกิจ ตามลำดับ
โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชน มากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
1.เบอร์ 1175 และ AIS1175 หากรับสายจะถูกดูดเงินออกจากบัญชี
2.ก.ล.ต. เปิดขายกองทุนรวม ลงทุนครั้งเดียวรับกำไรปันผลต่อเนื่องไม่มีหมดอายุ
3.กรมการขนส่งฯ เปิดรับทำใบขับขี่โดยไม่ต้องสอบเอง ผ่านเพจสอบใบขับขี่ด่วน. Online
4.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาเปิดใช้ปี 2569
5.ธ. ออมสินปล่อยสินเชื่อสู้วิกฤตไม่เกิน 100,000 บาท กู้ง่ายผ่านเพจมายโม ออมสิน
6.ออมสินเปิดลงทะเบียนออนไลน์ อนุมัติสินเชื่อภายใน 1 ชั่วโมง
7.ดื่มน้ำต้มหนุมานนั่งแท่น รักษาโรคมะเร็ง
8.เพจ CrazyLoan-1 ปล่อยเงินกู้ออมสิน 20,000 บาท ชำระคืน 20,560 บาท ดอกเบี้ยต่ำ
9.น้ำสกัดจากใบบัวบก ผักชีลาว ขึ้นฉ่าย และมะระขี้นก ช่วยรักษามะเร็งก้านสมอง
10.แอพพ์ฯ Settrade ของ ก.ล.ต. เปิดโอกาสให้ลงทุนหุ้นทองคำ เริ่มต้น 699 บาท
“ทั้งนี้ ดีอีเอส ขอให้ประชาชนตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์/โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน และมีการส่งต่อข้อมูลข่าวปลอมเหล่านี้ ก็จะทำให้ได้รับข้อมูลผิดๆ และส่งผลกระทบกับประชาชนที่หลงเชื่อข่าวปลอม ดังกล่าว โดยสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม
ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ที่
ไลน์ @antifakenewscenter
เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย
ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand
และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ตลอด 24 ชั่วโมง”
อนึ่ง ดีอีเอส เตรียมร้องศาลปิด Facebook ในไทย หลังเมิน ปล่อยมิจฉาชีพยิง Ad. หลอกประชาชน (เนื้อหาเต็ม)
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวในการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการซื้อโฆษณาผ่าน Facebook หลอกประชาชนลงทุน รวมถึงการชักชวนลงทุน โดยแอบอ้างใช้ชื่อบริษัทจดทะเบียน และสัญลักษณ์ของ ก.ล.ต. โดยไม่ได้รับอนุญาต
“ดีอีเอส อยู่ระหว่างการเรียบเรียงหลักฐานจากผู้กระทำความผิดบนแพลตฟอร์มเฟสบุ๊คเพื่อส่งศาลให้มีการปิดเฟสบุ๊คภายในสิ้นเดือนนี้และขอให้ศาลสั่งปิดเฟสบุ๊คภาคใน 7 วัน โดยการกระทำผิดของเฟสบุ๊ค เนื่องจากเฟสบุ๊ค ได้รับการโฆษณาจากผู้กระทำความผิดมิจฉาชีพในการลงโฆษณา และหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อในการลงทุนและซื้อสินค้าผ่านเฟสบุ๊ค เมื่อลูกค้าหลงเชื่อและชำระค่าสินค้าแล้วได้สินค้าไม่ตรงปก ที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 200,000 รายหรือประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์จาก 300,000 ราย มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท ถ้าเฟสบุ๊คไม่ช่วยเหลือประเทศไทย ถ้าเขาอยากทำธุรกิจในประเทศไทย เขาต้องแสดงความรับผิดชอบกับสังคมไทย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงได้คุยกับเฟสบุ๊คตลอดเวลา แต่กลับไม่สกรีนผู้มาลงโฆษณาทำให้ประชาชนชาวไทยได้รับความเสียหายมากกว่า 100,000 ล้านบาท”