กองทัพอากาศ การบินไทย นกแอร์ แอร์เอเซีย ไทยไลอ้อนแอร์ พร้อมสนับสนุนภารกิจรับคนไทยในอิสราเอลกลับบ้าน
10 ต.ค. 2023 #เรื่องเด่นเย็นนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศ แจ้งข่าวดีว่า ทางการไทยได้รับอนุญาตให้กองทัพอากาศ สามารถนำเครื่องบิน แอร์บัส 340 ทำการบินลงจอดในเมือง เทลอาวีฟได้แล้ว โดยจะเดินทางถึงในวันที่ 15 ตุลาคม สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 140 คน ต่อเที่ยวบิน /รวมถึงสายการบินพาณิชย์ จะรับคนไทยกลับอีกชุด 80 คน กลับถึงไทยในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ซึ่งการอพยพยังขอให้จัดลำดับตามพื้นที่ความรุนแรงของการสู้รบก่อน
12 ต.ค. / นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง บริษัทฯ ในฐานะสายการบินแห่งชาติ ขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจภาครัฐ ในการรับพี่น้องชาวไทยในพื้นที่ดังกล่าวกลับสู่ประเทศไทยโดยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
.
ทั้งนี้ การบินไทยจะให้การสนับสนุนเที่ยวบินเพื่ออพยพคนไทยในอิสราเอลที่มีความประสงค์จะกลับประเทศไทยจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้
13 ต.ค. / ‘นายกฯ’ เผย 3 สายการบิน ‘การบินไทย-นกแอร์-แอร์เอเชีย’ พร้อมรับคนไทยกลับจากอิสราเอล ระบุตั้งแต่นี้จนถึงสิ้นเดือนจะมีเครื่องบินรับคนไทยกลับบ้านทุกวัน
และเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด กล่าวได้ว่าในปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถรองรับพี่น้องชาวไทยได้เที่ยวบินละ 250-290 ที่นั่ง
14 ต.ค. / ทอ.เรียกกำลังพลสำรอง นักบิน A340 จากการบินไทย ที่มีประสบการณ์ และคุ้นเคยเส้นทางไป-กลับอิสราเอล ร่วมบินกับนักบินทอ. เนื่องจากต้องบินหลายเที่ยวบิน
14 ต.ค. 23.05 น. /Airbus A340-500 เที่ยวบินแรกของกองทัพอากาศ พร้อมออกเดินทางไปรับคนไทยในอิสราเอล ใช้เวลาเดินทาง 12 ชั่วโมง 40 นาที
ภาพบรรยากาศที่ท่าอากาศยานทหาร 2 ฐานทัพอากาศดอนเมืองในขณะนี้ กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมนำ Airbus A340-500 เที่ยวบินแรกออกเดินทางคืนนี้ มุ่งหน้าสนามบินนานาชาติเบน กูเรียน นครเทลอาวีฟ อิสราเอล เป็นเที่ยวบินแรกที่จะไปรับคนไทยในอิสราเอลเดินทางกลับมา กำหนดเวลาออกเดินทาง 00.05 น. (ของวันที่ 15 ตุลาคม) และคาดว่าจะใช้เวลาเดินทางขาละประมาณ 12 ชั่วโมง 40 นาที
โดยได้รับอนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้าของประเทศต่าง ๆ ได้แก่ ลาว จีน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เตอร์กเมนิสถาน อาเซอร์ไบจาน อาร์มีเนีย ตุรกี ไซปรัส และอิสราเอล เมื่อบินไปถึงแล้วคาดว่าจะใช้เวลาปฏิบัติการอยู่ที่อิสราเอลประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อคัดกรองและรอรับผู้โดยสาร ก่อนจะออกเดินทางกลับจากท่าอากาศยานนานาชาติเบน กูเรียน เพื่อมุ่งหน้ามายังกรุงเทพฯ
ผู้บัญชาการทหารอากาศยังเปิดเผยด้วยว่า การเดินทางในเที่ยวบินแรกนี้เส้นทางการบินอาจจะจำเป็นต้องอ้อมผ่านไปยังประเทศต่าง ๆ จำนวน 10 ประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานให้เที่ยวบินพิเศษเช่นนี้สามารถเดินทางผ่านได้แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการประสานงานที่รวดเร็วที่ได้รับอนุมัติภายในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งตามการดำเนินงานปรกติการขออนุญาตผ่านน่านฟ้าประเทศต่าง ๆ อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้เป็นสัปดาห์ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเส้นทางบินยังต้องบินอ้อมผ่านประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับอนุญาตแล้วทำให้เที่ยวบินนี้จะใช้เวลาเดินทางนานกว่า 12 ชั่วโมงในแต่ละขา แต่หากในเที่ยวบินหลัง ๆ ที่มีการประสานงานขออนุญาตผ่านประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมให้ได้เส้นทางบินที่สั้นกว่านี้ ก็อาจจะลดระยะเวลาในการทำการบินลงได้อีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง
สำหรับกำหนดรับคนไทยชุดแรกนั้นเดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานทหาร 2 ดอนเมืองในเวลา 04.40 น. ตอนเช้ามืดของวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคมนี้เป็นชุดแรก โดยผู้ที่เดินทางกลับมาในชุดแรกกับ A340-500 ของกองทัพอากาศนี้จะมีจำนวน 137 คน ส่วนเที่ยวบินต่อไปจะออกเดินทางจากดอนเมืองในวันที่ 18 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ กองทัพอากาศวางแผนการบินต่อเนื่อง จำนวนรวม 6 เที่ยวบิน จนถึงสิ้นเดือนต.ค.2566 เพื่อให้การช่วยเหลือคนไทยอย่างเต็มขีดความสามารถต่อไป
ขอบคุณข้อมูล : HFlight.net
การบินไทย นำเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 ER รับคนไทยกลับบ้าน
17 ต.ค. 2566 การบินไทย ในฐานะสายการบินแห่งชาติ สนับสนุนภารกิจรัฐบาล โดยนำเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 ER ทำการบินไปยังอิสราเอลด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี 8950 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 17 ตุลาคม 2566 เวลา 02.20 น เพื่ออพยพคนไทยในอิสราเอลจำนวน 280 คน และเดินทางถึงประเทศไทยในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 05.00 น ด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี 8951
18 ตุลาคม 2566 นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานต้อนรับคนไทยจำนวน 266 คน จากอิสราเอล กลับสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ ทีจี 8951 ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 777-200ER จากท่าอากาศยานนานาชาติเบลกูเรียน กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 04.45 น. ที่ผ่านมา
บริษัท การบินไทยฯ มีความพร้อมและยินดีสนับสนุนภารกิจรัฐบาล ในการจัดเที่ยวบินเพื่อรองรับคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศไทยจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ผนึกกำลังร่วมภารกิจพาพี่น้องไทยกลับบ้าน
สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ผนึกกำลังร่วมภารกิจพาพี่น้องไทยกลับบ้าน เริ่มบินในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 โดยมีกำหนดวันทำการบินตามวันที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการต่างประเทศ
สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ พร้อมให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 189 ที่นั่ง รับผู้โดยสารจากท่าอากาศยานนานาชาติฟูไจราห์(FJR) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีกำหนดออกเดินทางเวลา 16.00 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง(DMK) ประเทศไทย เวลาประมาณ 03.10 น. (แวะเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานนานาชาติฉัตรปตี ศิวาจี มหาราช-มุมไบ ประเทศอินเดีย)
ทั้งนี้สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ได้จัดเตรียมอาหารเเละเครื่องดื่มให้สำหรับผู้โดยสารตลอดการเดินทาง และพร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและอุ่นใจเมื่อเดินทางกับเรา
แอร์เอเชีย พร้อมร่วมภารกิจพาพี่น้องชาวไทยจากอิสราเอล กลับบ้านที่ประเทศไทย
โดยตามแผน แอร์เอเชียจะเริ่มบินตั้งเเต่วันที่ 24 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป (ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจัดสรรเที่ยวบินโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของพี่น้องชาวไทยในพื้นที่)
แอร์เอเชีย พร้อมให้บริการด้วยเครื่องบินเเบบเเอร์บัส เอ 320 จำนวน 180 ที่นั่ง บินพาคนไทยกลับบ้าน มีต้นทางจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นจุดพักรอประเทศที่สาม กำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฟูไจราห์(FJR) เวลา 7.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง(DMK) ประเทศไทย เวลาประมาณ 18.35 น. (แวะเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานนานาชาติโกลกาตา ประเทศอินเดีย)
โดยทุกเที่ยวบิน แอร์เอเชียจะจัดเตรียมอาหารร้อน อาหารว่างเเละเครื่องดื่มที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดนะคะ
นกแอร์พร้อมสนับสนุนพาพี่น้องชาวไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย
สายการบินนกแอร์พร้อมสนับสนุนพาพี่น้องชาวไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยเที่ยวบินแรกวันที่ 25 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป บินตรงจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยเครื่องบิน B737-800 จำนวน 189 ที่นั่ง ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตฟูไจราห์ (FJR) เวลา 07.00 น. (บินตรง) ถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (DMK) เวลา 16.15 น.
โดยทุกเที่ยวบินสายการบินนกแอร์ได้จัดเตรียมอาหารร้อน อาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับพี่น้องชาวไทยให้ได้อิ่มท้องตลอดการเดินทาง
23 ตุลาคม 66 วันแรก!!! เที่ยวบินกลับบ้าน พบกันกลางทางที่ UAE สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วยให้อพยพออกจากพื้นที่ได้เร็วขึ้น?
วันนี้ (23 ตุลาคม 66) คนไทย 280 คน โดยสารมากับเครื่องบิน A340-300 สายการบิน สไปซ์เจ็ท SG จาก กรุงเทลอาวีฟ TLV ด้วยเวลาบินราว 3 ชั่วโมง ขึ้นบินเวลา 6 โมงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น ถึง เมืองฟูไจราห์ FJR เรียบร้อย และหลังจากส่งผู้โดยสารเสร็จ เครื่องจะได้รับการเติมเชื้อเพลิง และให้ลูกเรือพักผ่อนราว 8 ชั่วโมง ก็จะบินไป/กลับ กรุงเทลอาวีฟ อีกรอบ เพื่อนำคนไทยมาต่อเครื่องของสายการบิน ไทยแอร์เอเซีย FD ที่ส่งเครื่องบิน A320 ขนาด 180 ที่นั่ง ไปเป็นเที่ยวบินอาสาส่งกลับเที่ยวแรก ต่อไป
ขณะที่ 7 โมงเช้า สายการบินไทย TG ส่งเครื่องบิน B777-200 ออกจาก สุวรรณภูมิ BKK ไปทำหน้าที่เที่ยวบินอาสาพากลับบ้าน รอบที่ 3 ก็ถึง ฟูไจราห์ FJR เรียบร้อย ด้วยใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง
วันนี้เป็นวันแรกที่รัฐบาลได้ปรับแผนในการอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล โดยการเช่าเหมาลำเครื่องบินจากเทลอาวีฟส่งคนไทยอพยพมาพักคอยในประเทศที่สามนั่นคือที่ฟูไจราห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้เครื่องบินของไทยมารับช่วงต่อพาผู้โดยสารกลับประเทศไทย โดยจะมีทั้งเครื่องบินของกองทัพอากาศ(A340-500) การบินไทย(777-200ER) ไทยแอร์เอเชีย(A320) ไทย ไลอ้อน แอร์(737-800) และนกแอร์(737-800) หมุนเวียนกันมารับจากฟูไจราห์กลับประเทศไทย ซึ่งจะมีเที่ยวบินออกจากทั้งเทลอาวีฟ(และฟูไจราห์)ทุกวันนับแต่วันนี้เป็นต้นไป
เบื้องต้น ประเมินได้ว่า การพบกันกลางทาง ณ เมืองฟูไจราห์ FJR ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะทำให้มีเที่ยวบินอพยพ เพิ่มขึ้นได้อีก 1 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิม 2 เที่ยวบิน เป็น 3 เที่ยวบิน แต่น่าจะได้ทำได้มากกว่านี้อีกหรือเปล่า?
นอกจากนี้ ช่วง 10 โมงเช้า กระทรวงการต่างประเทศ ยังจะมีคนไทยอีก 235 คน โดยสารมากับเที่ยวบินเช่าเหมา สายการบินเอลอัล LY บินออกจาก เทลอาวีฟ ถึง สุวรรณภูมิ เพิ่มเติมอีกด้วย
กระทรวงแรงงาน รายงานว่าตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 66 ถึงปัจจุบัน พาคนไทยเดินทางกลับประเทศได้แล้ว จำนวน 3,274 คน จากผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับ จำนวน 8,478 คน
ที่มาข้อมูล Thai Aviation Club
ตั้งแต่วันอังคารที่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไปจะมีเที่ยวบินกลับไทยทุกวัน
วันที่ 16 ต.ค.2566 สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กแจ้งว่า ขอให้คนที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย ยืนยันความประสงค์ด้วยการเดินทางมาที่ศูนย์พักพิง เพื่อที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะสามารถอำนวยความสะดวกเพื่อให้เดินทางกลับไทยในเที่ยวบินที่เร็วที่สุด พร้อมแจ้งว่าตั้งแต่วันอังคารที่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไปจะมีเที่ยวบินกลับไทยทุกวัน
สำหรับผู้ที่จะเดินทางมาที่ศูนย์พักพิงฯ ทางสถานทูตฯ ยังขอให้รวมกลุ่มเดินทางมาที่ศูนย์ และขอใบเสร็จจากคนขับรถ เพื่อนำไปเบิกที่ประเทศไทยต่อไป
Royal Thai Embassy
ขอให้คนไทยยืนยันอีกครั้งว่า ประสงค์จะกลับประเทศไทยหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลไทยจะจัดเที่ยวบินอพยพกลับประเทศไทย ในเดือนตุลาคม 2566
ผู้ที่ประสงค์เดินทางกลับ ขอให้เร่งมาที่ศูนย์พักพิงที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เทลอาวีฟ (ใกล้ตลาดคาร์เมล) ก่อนที่จะไม่มีเที่ยวบินค่ะ
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ขอให้มาถึงก่อนเที่ยงคืนของแต่ละวันนะคะ
กรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่ https://forms.gle/raF7dSpfxoHcuPZd9 หรือสแกน QR Code ด้านล่างนี้
บขส. อำนวยความสะดวกในการเดินทางของแรงงานไทย
บขส. กระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ บขส. อำนวยความสะดวกในการเดินทางของแรงงานไทย ช่วงระหว่างวันที่ 12 – 16 ต.ค. 2566 โดย บขส. ได้ให้บริการรถรับ-ส่งไปแล้ว จำนวน 26 คัน รองรับเส้นทางจากท่าอากาศยาน บน.6 และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงมีการให้บริการดูแลการเดินทางจากท่าอากาศยาน และโรงพยาบาลบำราศนราดูร มายังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมแล้ว สามารถรองรับ จำนวนประชาชนประมาณ 1,000 คน
นอกจากนี้ ในส่วนของ รฟท. ได้มีการจัดเตรียมสถานที่สำหรับเป็นจุดพักคอยให้แก่ญาติพี่น้องที่ต้องการมารอการกลับมาของกลุ่มแรงงานไทย ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยได้จัดเตรียมที่นั่งพักคอยกว่า 400 ที่นั่ง รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในเรื่องของอาหารว่างและเครื่องดื่ม เพื่อมอบให้กับพี่น้องประชาชนระหว่างรอ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม จะดูแลพี่น้องแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จนกว่าภารกิจการรับแรงงานไทยกลับบ้านจะสำเร็จลุล่วง