หน้าแรกข่าวสาร-สาระเป๋าตัง หรือ บล็อกเชน ใช้อะไรกันแน่ ?

เป๋าตัง หรือ บล็อกเชน ใช้อะไรกันแน่ ?

โพสต์ - เมื่อ

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านบล็อกเชน ตามนโยบายหาเสียงพรรคเพื่อไทย

บล็อกเชน (Blockchain)  คืออะไร Database ที่แก้ไขได้ยากมาก ทุกระยะเวลาหนึ่ง Database ธุรกรรมในช่วงนั้นจะร่วมกันเป็น บล็อก และมีการเข้ารหัสข้อมูลแต่ละ บล็อก ไว้ เมื่อมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้น Block แต่ละ Block ก็อ้างอิงข้อมูลของกันและกัน เป็น Chain การเข้าแก้ไขข้อมูลใดให้ผิดแปลกไป จึงทำไม่ได้ แต่ปัญหาก็คือ การอ้างอิงข้อมูลซึ่งกันและกันนี้ ว่ากันว่ามีความโปร่งใสสูง

ระบบ Database ของ บล็อกเชน ที่ออกแบบจะรองรับจำนวนธุรกรรมได้มากน้อยขนาดไหน เพราะประมาณการมีผู้ใช้ 30 ล้านคน เป็นอย่างต่ำและการใช้งานพร้อมกัน 10,000 transactions พร้อมกัน ระบบการต่อคิวจ่ายเงินที่ร้าน จะมีคอขวดหรือไม่ Super Server และโครงข่ายสื่อสาร ที่รองรับการทำธุรกรรมจำนวนมากๆได้หรือไม่ หากใช้งานพร้อมกันและupdate ไปพร้อมๆกัน ระบบจะช้าและระบบล่มหรือไม่ เป็นสิ่งที่ผู้เชียวชาญเป็นห่วง

กับ เป๋าตัง ในโครงการคนละครึ่ง ฯลฯ ของรัฐบาลประยุทธ์ แก้ไขปัญหาค่าครองชีพในช่วง Covid-19

เป๋าตัง ใช้ทำธุรกรรมผ่าน G-Wallet (จี-วอลเล็ท) ฟีเจอร์ที่อยู่ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง สามารถทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ เช่น รับเงิน โอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงใช้สิทธิเยียวยาโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง เรารักกัน เราชนะ ยิ่งใช้ยิ่งได้ จ่ายค่าไฟฟ้า ประปา ฯลฯ ทำให้ G-Wallet เปรียบเสมือนกระเป๋าเงินออนไลน์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสด และ G-Wallet (จี-วอลเล็ท) ก็สามารถออก RQCODE ใช้เช่นกัน

แต่การทำ Database ซึ่งไม่ซับซ้อนอ้างอิงซึ่งกันและกัน มีการยืนยันตัวตน และเชื่อมระบบกับหมายเลขโทรศัพท์บนมือถือ แต่ Database ก็มีข้อมูล transactions ที่สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ได้ ซึ่งมีหลายครั้งที่ระบบเป๋าตังล่ม แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถแก้ไขให้ระบบเป๋าตัง มีความเสถียรได้ในระดับที่ดีมาก

ซึ่ง APP เป๋าตัง ก็มีหลักการเหมือนกับ APP ธนาคาร แต่ต่างกันในระบบย่อย ของแต่ละธนาคาร ว่าจะมีการอะไรบริการลูกค้าได้มากกว่ากัน ทำให้ประชาชนสามารถการใช้ APP เป๋าตังเป็นที่คุ้นเคยเป็นปกติ แม้ไม่มีโครงการของรัฐก็สามารถใช้งานโอนรับเงิน ซึ้องสินค้าได้ปกติ

หรือต่าง เพียง APP นี้มีหลักการคิดจากรัฐบาลก่อนหน้าเท่านั้น

ซึ่งหากถามว่าประชาชนว่ารู้จัก บล็อกเชน (Blockchain) ก็น่าจะได้คำตอบที่ต่างกันไป และตอนหาเสียงทีมงานเข้าใจ (Blockchain) มากน้อยเพียงใด

*************

10 ต.ค. 66

5 เหตุผล แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต่างจากมาตรการกระตุ้นในอดีต

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่มีข้อทักท้วงเกี่ยวกับนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ขอชี้แจงในเชิงวิชาการเพื่อให้เกิดความเข้าใจ คือ

1.การเติมเงินในลักษณะนี้ ไม่เหมือนครั้งก่อนในอดีต เพราะครั้งนี้เป็นการเติมเงินที่มีเงื่อนไข แต่อดีตไม่มีเงื่อนไข จึงเปรียบเทียบไม่ได้ในแง่ของมิติผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยการใส่เงื่อนไขรัศมีการใช้งาน กรอบระยะเวลา และ ร้านค้าที่ต้องอยู่ในระบบภาษี ก็เพื่อที่จะให้ส่งผลต่อเศรษฐกิจในเชิงบวกมากกว่าการกระจายเม็ดเงินแบบเดิม ๆ

นอกจากนี้ การจ่ายเงินในลักษณะนี้ ยังทำในมิติของดิจิทัล ที่ไม่ใช่อนาล็อกแบบในอดีต หมายถึงมีความง่ายกว่า เร็วกว่า ปลอดภัยสูงกว่า และมีการทำธุรกรรมที่ง่ายและเร็วกว่า จึงเป็นข้อแตกต่างที่ไม่สามารถนำตัวเลขในอดีต หรือบทวิจัยในอดีตมาประเมินผลกระทบในเชิงบวกของเศรษฐกิจได้

2.การกระจายเม็ดเงินในลักษณะนี้เป็นเม็ดเงินที่สูง 10,000 บาทต่อคน ซึ่งแตกต่างจากการแจกเงินกะปริบกะปรอยในช่วงที่ผ่านมา

3.โครงการนี้เป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่งนำประเทศไปสู่ Digital Economy ที่มีมูลค่ามหาศาล โดยรัฐบาลมองไปถึงการสร้าง Super application ที่จะรวบรวมความสะดวกต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเป็นรัฐบาลดิจิทัลให้เกิดขึ้น

4.ดิจิทัล วอลเลต ไม่ใช่โครงการเดียวของรัฐบาล แต่จะมีตามอีกหลายมาตรการ ทั้งในเรื่องการดึงดูดนักลงทุน ดึงดูดการลงทุน ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคการบริการสมัยใหม่ ที่จะได้ผลกระทบจากกำลังซื้อที่สูงขึ้น จากดิจิทัลวอลเลต

5.ความแตกต่างเรื่องของเสถียรภาพกับศักยภาพ โดยที่ผ่านมาประเทศไทยโตแบบเสถียรภาพ แต่โตต่ำและไม่เพียงพอ จนมีคำพูดในทางวิชาการว่าไทยอาจโตไม่เพียงพอ จนมีปัญหาทางด้านสวัสดิการผู้สูงอายุในระยะยาว

“คำถามคือไทยจะโตแบบนี้จริง ๆ หรือ เพราะฉะนั้นจึงเป็นแนวคิดใหม่ ที่ประเทศไทยจะโตอย่างมีศักยภาพ พร้อม ๆ กับเสถียรภาพ” นายเผ่าภูมิกล่าว

11 ต.ค. 66

หลักเกณฑ์-เงื่อนไขการแจกเงิน 10,000 บาท

  • ไม่ใช่การแจกคริปโตเคอร์เรนซี แต่เป็นเงินบาทที่ใช้ผ่านช่องทางดิจิทัลวอลเลต
  • ผู้ที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ คือ ประชาชนคนไทยที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (อยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติม)
  • หากไม่มีสมาร์ทโฟนหรือแอปพลิเคชัน สามารถใช้ได้ผ่านเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
  • ผู้เข้าร่วมมาตรการต้องมีการยืนยันตัวตน/กดยอมรับเข้าร่วมโครงการ
  • แจกครั้งเดียว
  • แลกเป็นเงินสดไม่ได้
  • ใช้จ่ายซื้อสินค้าได้ทุกประเภท ทั้งบริโภค อุปโภค
  • ห้ามใช้จ่าย อาทิ ห้ามนำไปออม ห้ามนำไปใช้ชำระคืนหนี้สิน ห้ามใช้จ่ายเกี่ยวกับอบายมุข การพนัน
  • ห้ามซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์
  • มีระยะเวลาการใช้จ่าย 6 เดือน
  • จำนวนผูมีสิทธิ ประมาณ 50 ล้านคน
  • ใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท

ขณะที่รัศมีการใช้จ่าย เดิมกำหนด 4 กิโลเมตร จากที่ตั้งของบ้านที่อยู่อาศัยที่ปรากฏอยู่ในบัตรประจำตัวประชาชนจะขยายเป็นใช้จ่ายภายใน “ตำบล” หรือ “อำเภอ” หรือ “จังหวัด” ซึ่งรอคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานพิจารณาอีกที

12 ต.ค. 66

ที่กระทรวงคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นัดแรก ว่า การประชุมในวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องของระบบการจ่ายเงิน โดยให้สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ไปออกแบบระบบ

เบื้องต้นจะเป็นในรูปของ “บล็อกเชน” (blockchain) ที่จะออกมาเป็นแอปพลิเคชัน ที่รวบรวมทุกอย่างไว้ในจุดเดียวในหลายๆ เรื่อง อาทิข้อมูล ใบขับขี่ หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค

ส่วนเรื่องการขึ้นทะเบียนผู้เข้าร่วมโครงการจะมีทั้งร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี และนอกระบบฐานภาษี โดยในส่วนร้านค้านอกระบบภาษีนั้น จะให้ทางกระทรวงมหาดไทยเข้ามาเป็นผู้คัดกรอง

ทั้งนี้ผู้ที่จะขึ้นเงินในระบบได้ (แลกเป็นเงินสด) จะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ขณะที่ พ่อค้า-แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ที่เข้าร่วมโครงการแต่อยู่นอกฐานระบบภาษีจะไม่สามารถขึ้นเงินได้ แต่สามารถนำเงินไปซื้อวัตถุดิบในร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีได้ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

อ้างอิง นโยบาย พรรคเพื่อไทย
เติมเงินให้ทุกคนระบบ ใช้จ่ายใกล้บ้านผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท

กระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่
เติมเงินให้ทุกคนระบบ ใช้จ่ายใกล้บ้านผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ทุกคน ใช้จ่ายใกล้บ้าน 4 กิโลเมตร

พรรคเพื่อไทยมีความคิดทันสมัย และต้องการ “หยิบเงินในโลกยุคใหม่ใส่มือประชาชน” โดยการเตรียมพร้อมประเทศและประชาชนให้เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยมาตรการหลายๆ อย่าง ที่จะดำเนินการไปพร้อมกัน แต่เนื่องจากสภาพปัจจุบันที่การแข่งขันทางเศรษฐกิจเราเดินตามไม่ทันประเทศเพื่อนบ้าน เราจึงต้อง “ปั๊มหัวใจ” ของประชาชนเป็นอันดับแรก จึงเสนอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ “ใช้จ่ายใกล้บ้านด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)” 

  • คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้ ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ (Digital  Wallet)
  • กระเป๋าเงินดิจิทัลจะมีอายุการใช้งาน 6 เดือนสำหรับจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุขโดยเฉพาะ ยาเสพติดและการพนัน และไม่สามารถซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้
  • เงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชนและบริการที่ “อยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร” เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ส่วนในพื้นที่ห่างไกลจะมีการพิจารณาเป็นกรณีด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน
  • ร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารในโครงการในภายหลัง
  • เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ในระยะยาวเพื่อนำประเทศเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางของ FinTech
  • กระเป๋าเงินดิจิทัลคือเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไปในนั้น เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ ไม่มีราคาตก-ราคาขึ้น เพราะทุกเหรียญมีค่าเท่าเงินบาทเสมอ รับประกันโดยรัฐบาล
  • กระเป๋าเงินดิจิทัล ใช้ระบบ Blockchain มีความปลอดภัยสูงสุด สูงกว่าระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รู้เส้นทางการเงินทุกธุรกรรม รู้ผู้รับ รู้ผู้จ่าย เป็นระบบที่มีความโปร่งใสสูงสุด ตรวจสอบได้ทุกธุรกรรม
  • ทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้จ่ายไปจะหมุนเวียนเข้ามาเป็นภาษีของรัฐบาลเพื่อเอา เงินไปสนุบสนุนประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ที่พักเกาะล้าน

PASSENGER DROP LANE

Domain "kandoenthang.com" to replace "kardeinthang.com" Renewal expired

Renewal "kardeinthang.com" There is an expensive cost.

More like this

งานสัปดาห์หนังสือ 2567

งานสัปดาห์หนังสือ 2567 เริ่ม 28 มี.ค. - 8 เม.ย.เช็คโปรโมชัน

เปิดตัว BYD Sealion รถไฟฟ้า SUV ดีไซน์สปอร์ตรุ่นล่าสุด

BYD ATTO 3 รุ่นปี 2023 คือ BYD รุ่น Atto3 – Standard Range ลดเหลือ 899,900 บาท* Atto 3 Extended Range ลดเหลือ 949,900 บาท