ดิจิทัลวอลเล็ต จ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านระบบ Blockchain ให้สิทธิ์ประชาชนเลือกซื้อ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า นโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตรัฐบาลอาจจะพิจารณาทบทวนในเรื่องเงื่อนไขการให้ใช้เงินในระยะทาง 4 กิโลเมตร จากบ้านที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้าน เพราะมีข้อจำกัดในพื้นที่ชนบท ส่วนจะปรับอย่างไรขอหารือกันในรัฐบาลอีกครั้ง
ส่วนเงื่อนไขที่ต้องใช้เงินจำนวนนี้ให้หมดใน 6 เดือนนั้นตรงนี้ที่กำหนดไว้มีความเหมาะสมแล้ว ซึ่งในระยะเวลา 6 เดือนควรมีการเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาบ้าง และการให้กลับไปใช้จ่ายเงินส่วนนี้ในท้องถิ่นเพื่อให้มีเงินกระจายลงไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความคึกคักมากขึ้น
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน โดยยืนยันในกรอบคิดของดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งไม่ใช่เพื่อได้มาซึ่งคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง แต่เห็นแล้วว่าประเทศไทยเวลานี้ต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีหลักคิดสำคัญคือ กระตุ้นกลไกเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาคด้วย Blockchain
ทั้งนี้ ยังมีหลักคิดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ให้อนาคตคนไทยมีทั้งกระเป๋าเงินสดและกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งจะเป็นโครงสร้างรองรับโอกาสที่ไทยจะก้าวไปสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก
ขณะที่ประเด็นที่มาของงบประมาณ จุลพันธ์ขอความร่วมมือให้สมาชิกอภิปรายด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจชี้นำสังคมให้เข้าใจผิด กระทบกับความน่าเชื่อถือทางวินัยการเงินการคลัง รัฐบาลยืนยันไม่แตะต้อง กองทุนรวมวายุภักษ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ กองทุนประกันตน รัฐบาลไม่ได้มีแม้แต่ความคิดจะแตะต้องกระบวนการเหล่านั้น
สำหรับกระบวนการของรัฐบาล จุลพันธ์กล่าวว่า สุดท้ายจะมีความชัดเจนเรื่องกรอบการใช้เงิน รวมถึงการใช้เงินคืน ไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะ และเป็นไปตามวินัยการเงินการคลังอย่างแน่ชัด
ขณะที่เงื่อนไขใช้เงินดิจิทัลได้ในระยะ 4 กิโลเมตรนั้น รัฐบาลอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและสมาชิกรัฐสภา ต้องขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะ และหาหนทางให้เกิดประโยชน์สูงสุด ข้อสรุปจะเป็นเช่นไร สุดท้ายเม็ดเงินจะไปสู่มือประชาชน และตอบเป้าหมายหลักคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในเรื่องของการเอื้อทุนใหญ่ รวมถึงการดำเนินการให้เกิดราคาที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลรับฟังโดยคำนึงถึงความหวังดี แต่รัฐบาลไม่ได้มองประชาชนเป็นผู้ร้าย แต่มองว่าประชาชนส่วนมากจะสามารถใช้เงินที่ได้รับไปให้เกิดประโยชน์ ทั้งการบริโภคและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน
“โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เราไม่เลือกว่าสุดท้ายแล้วทุนใหญ่หรือร้านสะดวกซื้อไม่สามารถร่วมโครงการได้ อันนี้เป็นสิทธิของประชาชน และเราต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนในการเลือกกิจกรรมที่เขาจะทำ แต่แน่นอนว่ารัฐจะมีนโยบายและโครงการที่จะประกอบกันเข้า เพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้เม็ดเงินนี้ให้เป็นประโยชน์
“ขณะนี้มีการรวมกลุ่มกันของประชาชนต่างจังหวัดจำนวนมาก รวมกลุ่มกันเพื่อนำเม็ดเงินนี้ไปต่อยอดอาชีพ ไปรวมกลุ่มเพื่อจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน นี่คือแนวคิดของประชาชนที่ล้ำหน้ากว่าพวกเราที่นั่งอยู่ในรัฐสภาแห่งนี้ด้วยซ้ำ นโยบายนี้จะทำให้ประชาชนแตกยอดความคิด รองรับกับเม็ดเงินที่ลงไปให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
จุลพันธ์ยืนยันว่า รัฐบาลเชื่อมั่นในประชาชนว่าจะสามารถนำเม็ดเงินนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และระบบ Blockchain ไม่มีเทคโนโลยีใดที่ปลอดภัยไปกว่านี้ จึงขอให้ความมั่นใจว่า นโยบายนี้จะเกิดประโยชน์และตรวจสอบได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด